หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ใบความรู้ที่ 30 กฏหมายเกี่ยวกับการรับราชการทหาร

ใบความรู้ที่ 30 กฏหมายเกี่ยวกับการรับราชการทหาร


ใบความรู้ที่ 30
กฏหมายเกี่ยวกับการรับราชการทหาร

กฎหมายเกี่ยวกับการรับราชการทหาร
    ชายไทยทุกคนมีหน้าที่ต้องถูกเกณฑ์เข้ารับราชการทหารตามระยะเวลาที่ทางราชการกำหนด โดยมีพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 กล่าวไว้ว่า "บรรดาชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฏหมาย เมื่อมีอายุย่างเข้าสิบแปดปีในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของตนภายในเดือนพฤศจิกายนของพุทธศักราชนั้น ผู้ใดไม่สามารถจะไปลงบัญชีทหารกองเกินด้วยตนเองได้ ต้องให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะและพอจะเชื่อถือได้ไปแจ้งแทนให้นายอำเภอสอบสวนให้แน่ชัดเพื่อลงบัญชีหารกองเกินไว้ถ้าไม่มีผู้แทน ให้ถือว่าผู้นั้นหลีกเลี่ยงขัดขึ้น" โดยชายไทยที่มีคุณสมบัติดังกล่าวจะต้องปฏิบัติดังนี้
1. การลงบัญชีทหารกองเกิน  ชายซึ่งมีสัญชาติไทย เมื่อมีอายุย่างเข้า 18 ปีใน พ.ศ.ใด ให้ไปแสดงคนที่อำเภอซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตน เพื่อลงบัญชีทหารกองเกินในปี พ.ศ.นั้น ถ้าฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หลักฐานที่จะต้องนำไปแสดง คือ สูติบัตร บัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านเมื่อไปแสดงตนแล้วทางอำเภอจะออกไปสำคัญ (สด.9) หรือใบรับ (สด.10) ให้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
2. การรับหมายเรียกผู้ลงบัญชีเป็นทหารกองเกิน เมื่อมีอายุย่างเข้า 21 ปี ในพ.ศ.ใด ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอที่เขต ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตน ภายในปี พ.ศ.นั้น ถ้าฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. การตรวจคัดเลือกทหาร  เมื่อรับหมายเรียกแล้ว ทหารกองเกินจะต้องไปแสดงตนเพื่อรับการตรวจเลือกเป็นทหารประจำการ ในวัน และเวลา และสถานที่ที่กำหนด มิฉะนั้นมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หลักฐานที่จะต้องนำไปแสดง คือ ใบสำคัญทหารกองเกน บัตรประจำตัวประชาชน และประกาศนียบัตรหรือหลักฐานการศึกษา
4. บุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับราชการทหาร ได้แก่ พระภิกษุที่มีสมณศักดิ์หรือมีเปรียญ ข้าราชการครู และคนพิการทุพพลภาพไม่สามารถเป็นทหารได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น