หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ใบความรู้ที่ 34 กฏหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน

ใบความรู้ที่ 34 กฏหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน

ใบความรู้ที่ 34
กฏหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน

กฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
   การที่บุคคลหนึ่งไปมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น นอกจากจะเกิดความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับสิทธิในทางแพ่งแล้วบางกรณียังอาจจะก่อให้เกิดความรับผิดในทางอาญาด้วยก็ได้ การกระทำที่จะต้องรับผิดในทางอาญานั้น เป็นเรื่องของการกระทำที่มีความผิดและมีโทษในทางอาญา
กฎหมายอาญา คือ กฎหมายที่บัญญัติว่าการกระทำอย่างใดเป็นความผิด (ลักษณะความผิด) และกำหนดโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้น (ลักษณะโทษ)
หลักเกณฑ์สำคัญของความผิดทางกฎหมายอาญา มีดังนี้
1. ไม่มีความผิดในทางอาญาถ้าไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้กล่าวคือ การกระทำใด ๆ จะเป็นความผิดทางอาญาต่อเมื่อมีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าการกระทำนั้น ๆ เป็นความผิด
2. ไม่มีโทษทางกฎหมายไม่บัญญัติไว้ให้ต้องรับโทษ กล่าวคือ บุคคลจะรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อมีกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะที่กระทำนั้น บัญญัติว่าเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ เช่น โทษปรับ โทษจำคุก เป็นต้น
3.ไม่มีผลย้อนหลังให้รับโทษทางอาญา กล่าวคือ กฎหมายอาญาจะไม่มีผลย้อนหลังไปลงโทษบุคคลให้ต้องรับโทษ ถ้าในขณะที่กระทำนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด แต่อาจย้อนหลังในทางที่เป็นคุณได้ ให้รับโทษน้อยลง
4. ต้องตีความโดยเคร่งครัด กล่าวคือ บทบัญญัติในกฎหมายอาญาจะตีความให้เป็นการขยายไปลงโทษหรือเพิ่มโทษในกรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนไม่ได้

กฎหมายอาญา คือ กฎหมายทุกอย่างที่บัญญัติถึงลักษณะความผิดและลักษณะโทษทางอาญา แบ่งเป็น 2 ประเภท
1. ต้องมีการกระทำ
การกระทำ หมายถึง การเคลื่อนไหวร่างกายโดยรู้สำนึก การละเมอ หรือการถูกสะกดจิตแล้วกระทำความผิดในระหว่างนั้น ย่อมไม่ใช่การกระทำ จึงไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย
2. ก่อนที่จะมีการกระทำความผิดขึ้น จะมีขั้นตอนของการกระทำเป็น 3 ระยะ
  1.  การคิดที่จะกระทำ
2.  ตกลงใจหรือตัดสินใจที่จะกระทำ
  3.  ได้มีการกระทำตามที่ตกลงใจนั้น
3. การกระทำนั้นเข้าองค์ประกอบที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ เมื่อมี “การกระทำ” แล้วต้องพิจารณาต่อไปว่าการกระทำนั้นเข้าองค์ประกอบที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดหรือไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น